เดือนสุดท้ายของปีแล้ว ตูนอยากมีอะไรดีดีมาแบ่งปันเพื่อนๆค่ะ อาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่อยากให้อ่านกันค่ะ
ชอบมีคนมาถามตูนว่า อยากผอมทำไง ขาใหญ่ทำไง อยากกินน้อยทำไง ไม่กินขนมทำได้ยังไง คือมันเป็นคำตอบที่ยากและยาวมาก จะให้พูดสั้นๆอาจจะไม่เข้าใจ เลยถือโอกาสนี้มาแบ่งปันเรื่องราวต่างๆให้ได้อ่านกันค่ะว่า จากคนที่เกลียดการออกกำลังกาย มาชอบออกกำลังกายมากๆ ถึงเข้าขั้นซีเรียสกับการออกกำลังกาย เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตูนบ้าง เริ่มกันเลยค่ะ
เกริ่มนำก่อนนะคะ เผื่อใครยังไม่รู้จักตูน
ชื่อเล่นจริงๆแล้ว คือ การ์ตูน ตูนเฉยๆก็ได้ไม่ซีเรียส อายุ 26 ปีแล้วค่ะ ทำงานหลักคือเป็น PM อยู่บริษัทที่ทำเกี่ยวกับ Digital Agency ค่ะ งานรองก็เขียน Blog ส่วนตัว สนใจหลายเรื่องมาก แต่หลักๆที่ชอบเขียนชอบแชร์ จะเป็นเรื่อง เครื่องสำอาง แต่งหน้า ออกกำลังกาย ทำอาหาร
หลายปีที่ผ่านมาตูนพยายามหาทางเพื่อให้หุ่นดีแบบมีสุขภาพเพื่อผลในระยะยาว โดยทั้งหา ทั้งอ่านข้อมูลจากหลายๆที่ และลองด้วยตนเอง ผิดบ้าง ถูกบ้าง ซึ่งทุกอย่างที่นำมาแชร์มาเล่า เกิดจากประสบการณ์ของตูนล้วนๆค่ะ
เคยอ้วนมากค่ะ อ้วนสุดในชีวิตคือตอนปี 1 ตอนนั้นอยู่หอ ชีวิตไม่มีอะไรมาก เรียน กิน ดื่ม นอน น้ำหนัก 60 (ไม่มีรูป หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ 555) สูง 165 แต่ตอนนั้นคิดว่า ฉันไม่อ้วนหรอก แค่ใส่กางเกงไซส์ XL เอง กระโปรงพลีทก็ใส่แบบคนทั่วไปไม่ได้แค่นั้นเอง แล้วคือตอนนั้นได้เป็นลีดด้วยนะ จำได้เลยว่า มีท่าที่จะต้องถูกยก แล้วคู่เรายกเราไม่ขึ้น พี่ที่มาซ้อมก็บอก ทำไมยกไม่ขึ้น มาเดี๋ยวจะยกให้ดู พอพี่เค้ายกเท่านั้นแหล่ะ เออหว่ะ ยกไม่ขึ้นจริงๆด้วย ไม่ต้องยกละกัน ใส่กางเกงลีดก็ใส่ไม่ได้ต้องไปให้ร้านต่อตรงสะโพกเพิ่ม สรุปคือกางเกงเป็นลายพร้อยอยู่คนเดียว รองเท้าบูทก็ยัดขาไม่ขึ้น เพื่อต้องมาช่วยยัด คนรอบข้างก็เริ่มทัก เออหว่ะ สงสัยฉันจะอ้วนจริงๆ 5555 ปิดเทอมกลับมาอยู่บ้าน แม่จับลดเลยจ่ะ มื้อเช้าไม่ตื่น ไม่ต้องกินข้าว มื้อเที่ยงกินข้าวกับน้ำพริก ผักต้ม มื้อเย็น กินผักลวก โอโหตอนนั้นร้องไห้เลยนะ มันหิว มันท้อ ผลที่ได้คือ น้ำหนักลงไป 5 โล เปิดเทอมสองมารอบข้างเริ่มทัก ผอมลง เห้ยยย ดีใจจัง!!
พอน้ำหนักลงแล้วก็อยากลงอีก ตอนนั้นรู้สึกว่า เอาอีกๆ จะลงอีก ตัดสินใจ(แบบตื้นๆ) ไปซื้อยาลดน้ำหนักจากคลินิคแถวบ้านมากิน กินไป สองวัน ลดไปสองโล อือหือออออ effect แรงมาก ข้าวกินไม่ได้เลย กินแล้วคลื่นไส้ ช่วงนั้นนอนตายอย่างเดียว อารมณ์หงุดหงิดมาก (จากที่ขี้หงุดหงิดอยุ่แล้ว) ทำข้อสอบไม่ได้ ร้องไห้ เครียดหนักกว่าเดิม พอบอกความจริงกับที่บ้าน อือหือออออ หูชาค่า ไม่เอาอีกแล้วๆ พอแล้วกับยาลดน้ำหนัก ก็เลยเลิกกิน แล้วอดข้าวเย็นแทนค่ะ น้ำหนักก็ลงมาเรื่อยๆนะ
พอขึ้นปี2 – 4 น้ำหนักก็พอประมาณนะ ต่ำสุดคือ 47 คือช่วงปี 2 ช่วงนั้นกินน้อย กลัวอ้วน งานเยอะ เที่ยวบ่อย ผอมแห้งจนคนรอบข้างหาว่าติดยา ตัวบางเหมือนจะหัก และ น้ำหนักสูงสุดคือ 49-50 คือช่วงปี 4 ค่ะ อุดมสมบูรณ์ กินไปเที่ยวไป มีความสุข 555 ยังงดข้าวเย็นเหมือนเดิม
พอเริ่มทำงาน น้ำหนักมันเริ่มเพิ่มขึ้นๆ 50-52 งดข้าวเย็นก็แล้ว น้ำหนักก็ไม่ลง ทำไงดีเนี่ย หาตัวช่วยๆ ยาลดน้ำหนักหรอ? ไม่เอาแล้ว ขอบาย อาหารเสริมลดน้ำหนักหรอ เออก็ดีนะ ก็ลองกินอาหารเสริมเรื่อยๆเปื่อย ดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่พอเลิกกิน น้ำหนักมันก็เท่าเดิมอ่ะ หาวิธีอื่นบ้าง สุดท้ายมาจบด้วยการออกกำลังกาย
เคยคิดนะว่า โอ้ยยยยยย ออกกำลังกาย เกลียดมาก ไม่ชอบมากๆ น่าเบื่อ ไม่อินเลย แต่ก็เอาวะ แฟนก็ชวนออก คนรอบข้างก็ออก มันต้องมีดีบ้างสิ ไม่งั้นคนก็คงนั่งอยู่บ้านเฉยๆ กินอาหารเสริมแล้วจบที่มีหุ่นดีแล้วแหล่ะ ก็เริ่มออกกำลังกายค่ะ แรกๆนี่แบบ ชั่งน้ำหนักทุกวัน ทำไมมันไม่ลด? ออกกำลังกายแบบเหยาะแหยะ ขอไปที จนแฟนเริ่มบ่น เราก็เริ่มท้อ แต่ก็ฮึดสู้ หาแรงบันดาลใจ คิดใหม่ หาวิธีใหม่ๆ T25 นี่ก็อิน อินเฉพาะช่วงแรกๆ สักพักเบื่อ เลยเสิชในยูทูป พอออกได้นานได้มากขึ้น รู้สึกร่างกายเฟิมขึ้นนิดนึง ก็เริ่มกินให้กำลังใจตัวเอง สรุปคือ สุดท้าย น้ำหนักมากกว่าเดิม อือหืออ ร้องหนักกว่าเดิม 5555 คิดได้ว่า สงสัยต้องคุมการกินแล้วแหล่ะ โอเค ฉันจะต้องควบคุมการกิน กินให้น้อย พอกินน้อย มันไม่มีแรงออกกำลังน่ะสิ กินเยอะก็กลัวอ้วน เลยอ่านและศึกษา ว่าเราควรกินแบบไหน
กินคลีน? บ้ากินคลีนอยู่พักนึง ทำกินเอง น้ำมันไม่เอา ของทอดไม่เอา ขนมหวานไม่แตะ เครื่องปรุงไม่ใส่ อาหารตามสั่งไม่กิน จะกินอะไรแต่ละทีนี่คิดนานมาก ของที่ซื้อกินถ้าไม่organicจะไม่ซื้อ ขนมปังต้อง organic ต้องคลีน แล้วอาหารพวกนี้นี่ไม่ใช่ถูกๆเลย หมดเงินไปหนักมาก สั่งอาหารคลีนเป็นกล่องๆมาส่งบ้าง สุดท้ายพอได้กินอะไรอร่อยๆก็จะลืมตัว กินหนักมาก น้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิมอีก คือ 52-53 มีบางช่วงน้ำหนักมากกว่าเดิมอีก 54-56 เริ่มรำคาญตัวเองมากๆ ทำไมฉันลดไม่ลงซะทีเนี่ยยยยยยยยยย
ลองหันมากินแบบนับแคล ตั้งไว้ว่าจะลดกี่โล แล้วให้แอพคำนวน (ส่วนตัวใช้ myfitnesspal กับ Calorie , CalTracker ของคนไทย) ว่าเราควรจะกินกี่แคล อย่างตูนนี่ตั้งใจจะลด 4 โล อยากให้เหลือสัก 50 วันนึงจะต้องกิน 1200 แคล แล้วต้องออกกำลังกายไปด้วย ถามว่าทำได้เต็มที่หรอ?? ไม่เลย แล้ววันๆนึง จะต้องมานั่งคำนวนว่าจะกินไรดีนะ อันนั้นไม่ได้ อันนี้เกิน เสียเวลาชีวิตมากๆ 555
หลายคนอ่านแล้วน่าจะเคยลองทำวิธีข้างต้นที่แชร์กันไปเนอะ แต่รู้ไหมว่า กว่าจะได้หุ่นที่ดีแบบมีสุขภาพ มันไม่ง่ายเลย มันต้องอาศัยหลายอย่าง หรือเรียกได้ว่าทุกอย่างเลยด้วยซ้ำ ตั้งแต่พื้นฐาน การกิน การพักผ่อน เวลา และความพยายาม
เล่ามาซะพอสมควรละ คงจะอยากรู้แล้วใช่ไหมละว่า ตูนทำไรบ้าง ปฏิบัตตัวยังไง กินอะไร ตูนขอรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่ตูนเคยลองทำมาทั้งหมดให้เพื่อนๆได้อ่านกันนะคะ
1. สำรวจตนเอง
รูปร่างแต่ละคนไม่เหมือนกันค่ะ อยู่ที่โครงสร้างร่างกาย อย่าเอามาเปรียบเทียบกัน ฉันอยากหุ่นแบบนี้ ถามว่าเป็นไปได้หรือไม่? ตอบเลยค่ะ อาจจะเป็นไปได้และอาจจะเป็นไปไม่ได้
ตูนเป็นคนที่ช่วงบนเล็ก เล็กมาก หน้าอกไม่มี หน้าท้องไม่ค่อยมี แต่ช่วงล่างใหญ่ค่ะ กระดูกสะโพกใหญ่มาก เป็นกรรมพันธุ์ค่ะ เป็นคนโครงใหญ่ ต้นขาใหญ่ น่องใหญ่ ที่ใหญ่เพราะต้องรองรับกระดูกเราเนี่ยแหล่ะ 555
ฉะนั้นจะให้ตูนขาเล็กเรียวเพรียวสวยนั้นมันเป็นไปไม่ได้ค่ะ เราต้องรู้จักตัวเอง สำรวจตัวเองก่อนค่ะว่า ที่ร่างกายเราไม่สมส่วนนั้น มันเกิดจากอะไร ถ้าเป็นที่กรรมพันธ์ุ เราก็ต้องทำใจค่ะ แล้วไปโฟกัสส่วนที่สามารถลดได้
2. ออกกำลังกาย
ไม่มียาวิเศษหรือทรีทเมนท์ไหนที่ทำให้เราผอมเพรียวอย่างยั่งยืนค่ะ The best way to perfect shape is EXERCISE หาวิธีการออกกำลังกายที่เราชอบค่ะ จะวิ่ง เข้ายิม ว่ายน้ำ ต่อยมวย โยคะ อะไรก็ได้ค่ะ เพราะสิ่งที่เราชอบและเราสนใจจะทำให้เราทำได้นาน
ถ้าถามว่าส่วนนั้นใหญ่ มีพุง จะทำไงดี เอาจริงๆ มันไม่สามารถลดเป็นส่วนๆได้นะ เราควรจะ balance ทุกจุดเวลาเราออกกำลังกาย เวลาเราออกกำลังกายร่างกายจะดึงทุกส่วนไปใช้งานค่ะ อยู่ที่ท่านั้นๆว่า จะช่วยกระชับส่วนไหนได้บ้าง ถ้าอย่างตูนช่วงล่างใหญ่ ตูนจะเน้นเล่นขาอาทิตย์ละ 2 ครั้งค่ะ ส่วนจุดอื่นๆก็เล่นอาทิตย์ละครั้ง อกเล่นคู่กับหลังแขน หน้าแขนเล่นคู่กับหลัง ขาเล่นเดี่ยวๆเล่นมากกว่าส่วนอื่นหน่อย ประมาณนี้ค่ะ
การออกกำลังกายมีหลายแบบ แต่ที่ทำและเห็นผลได้ดีคือ เวทเทรนนิ่ง (weight training) และ คาร์ดิโอ (cardio)
เวทเทรนนิ่ง weight training คือการใช้แรงต้าน เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อหรือให้กล้ามเนื้อกระชับ จะใช้ดัมเบล ใช้เครื่องที่อยู่ในยิมก็ได้ค่ะ
ถ้าออกกำลังกายที่บ้าน ก็หาซื้อดัมเบลน้ำหนักที่เหมาะสม (วัดจากเมื่อลองยก 1 เซทแล้ว สองครั้งสุดท้ายเริ่มยกไม่ไหว นั่นคือกำลังพอดี) ถ้าใช้เครื่องที่อยู่ในยิมนี่ก็ง่ายเลยค่ะ เพราะเครื่องมันจะสะดวกกว่า เพิ่มลดน้ำหนักได้ง่าย หากใครไม่มีอุปกรณ์จะ วิดพื้น ซิทอัพ ก็ได้นะคะ ถือเป็นการเวทเทรนนิ่งได้ด้วยเช่นกัน เลือกเอาที่สะดวกและสามารถเลยค่ะ
ก่อนเริ่มออกกำลังกายทุกชนิดจะยืดกล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายก่อน เวทเทรนนิ่งแต่ละท่า จำนวน 3-4 เซท เซทละ 12-15 ถ้าไม่ไหว ก็ค่อยๆลด เช่น เซทแรก อาจจะ 15 เซทสอง 12 เซทสาม 10 ค่ะ ระหว่างเซทให้พักไม่เกิน 1 นาที แล้วเล่นเซทต่อไปต่อได้เลยค่ะ
แต่ละท่าก็หาจากในยูทูปบ้าง แฟนสอนบ้าง หาอ่านบ้าง เครื่องที่อยู่ในยิม ก็จะสะดวกค่ะ จะมีบอกว่าเครื่องนี้ได้ส่วนไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยค่ะ ท่าต้องถูกต้อง เล่นส่วนไหนให้โฟกัสส่วนนั้น มีหลายคนรวมถึงตูนเองด้วยที่เล่นแล้วปวดหลัง แสดงว่าเราอาจจะทำท่าผิดค่ะ ฉะนั้นศึกษาท่าให้ดี กำหนดลมหายใจให้ถูกต้อง เวลาออกแรงให้หายใจออกค่ะ น้ำหนักเอาที่พอดี ถ้าเล่นไปสักพักแล้วค่อยๆเพิ่มน้ำหนักค่ะ
เล่นแล้วกลัวมีกล้าม จะบอกว่ามันยากมากค่ะที่ออกกำลังกายแล้วจะมีกล้าม มันอยู่ที่หลายๆปัจจัย ไม่ใช่แค่ออกกำลังกายอย่างเดียวค่ะ ฉะนั้นไม่ต้องกลัวค่ะ
คาร์ดิโอ cardio คือ การทำให้หัวใจเต้นแรงและเต้นเร็วอาศัยความต่อเนื่องในระยะเวลาประมาณหนึ่ง เพื่อให้หัวใจแข็งแรง ทำให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น เวลาที่ควรจะคาร์ดิโอ คือ 20 นาทีขึ้นไป แต่ถ้าอยากให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้หรือเผาผลาญไขมัน จะอยู่ที่ 40 นาทีขึ้นไป คาร์ดิโอทำได้หลายวิธีค่ะ วิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ เต้น
เป้าหมายของการมีหุ่นดีแบบมีสุขภาพคือ “การลดไขมัน” แล้วแทนที่ไขมันด้วยกล้ามเนื้อ จะทำให้รูปร่างของเรากระชับขึ้น พอกระชับขึ้น แต่ละส่วนมันเลยดูเล็กลง ส่งผลให้ดูเฟิมขึ้นค่ะ และ เมื่อกล้ามเนื้อเราเพิ่มขึ้นเราก็จะเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น คือกินได้เยอะขึ้นนั่นเองค่ะ ที่สำคัญอีกอย่างคือ เวลาน้ำหนักขึ้นเนื้อเราจะไม่เผละ จะเห็นไม่ชัดค่ะ อันนี้คอนเฟิมว่าจริง อิอิ
อันนี้คือตัวอย่างแหล่งที่มาจากที่ตูนใช้ค่ะ XHIT Daily , BeFit , emilyskye , Be fit for Life , cu fit girl
ซึ่งจะมีหมด ไม่ว่าจะลดแขน ลดแขน ลดพุง สร้างซิกแพค ยกเวท คาร์ดิโอ ก้น บั้นท้าย อยากรู้ไร มีหมด ดูไปเล่นไปเพลินไป แรกๆจำไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ พอทำไปบ่อยๆ จะจำได้เองหลังๆนี่ไม่ต้องเปิดคลิปเก่าๆละ จำได้หมด ก็หาคลิปอื่นใหม่ๆแทนค่ะ จะได้ไม่เบื่อไม่ซ้ำซาก
ไม่ชอบออกกำลังกายทำไงดี? อันนี้เข้าใจค่ะ เพราะเมื่อก่อนก็เกลียดการออกกำลังกาย แต่อยากให้ตั้งเป้าหมายและพยายาม ที่สำคัญคือ ห้ามท้อ คนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ ถ้าเราหยุดมันจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าเราไม่ลองให้ถึงที่สุดจะรู้ได้ไงว่าผลจะเป็นยังไง? อยู่ที่ตัวเราทั้งนั้นค่ะ ท่องเอาไว้ ฉันจะสวยแบบมีสุขภาพดี หาแรงบันดาลใจ ชวนเพื่อน ชวนแฟนไปออกกำลังกาย ตูนนี่ถือว่าเปลี่ยนความคิดได้เร็วเพราะแฟนออกกำลังกายค่ะ และแฟนชอบพูดดูถูกว่าเราอ่อน ใจไม่สู้ ตูนเลยฮึดสู้ขึ้นมาค่ะ
จากที่เกลียดการวิ่งเพราะคิดว่ามันเหนื่อย ทำไม่ได้ ก็ลงมินิมาราธอนหลายงาน เวลาเราวิ่ง ถ้าเราหยุดมันก้ไม่ถึง แต่ถ้าเราวิ่งเข้าเส้นชัยแล้ว เราก็วิ่งได้นี่ ไม่ตายหรอก รู้สึกดีด้วยนะ เมื่อก่อนนัดเจอเพื่อนจะนัดตามร้านกิน ร้านดื่ม เดี๋ยวนี้นัดกันไปวิ่งจ่ะ ตื่นตีสามไปวิ่งงี้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนน่ะหรอ ตีสามเพิ่งกลับบ้าน 5555
ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายทำไง? ออกกำลังกายที่บ้านไงคะ 555 อย่าอ้างค่ะ ไม่เชื่อหรอกว่าไม่มีเวลา ถ้าเราตั้งใจจะทำอะไรแล้ว มันไม่มีหรอกค่ะที่ไม่สามารถทำได้ สำหรับตูนแล้ว จะออกกำลังกายหลังเลิกงานค่ะ ถ้าเพลียจริงก็จะมาคาร์ดิโอเฉยๆ หรือถ้าไม่สามารถเข้าฟิตเนสได้ ก็จะออกกำลังกายที่บ้านค่ะ มันไม่มีหรอกนะ ที่ไม่มีเวลาออกกำลังกายอ่ะ ข้ออ้างทั้งนั้น เวลาว่างส่วนใหญ่ ตูนจะอุทิศให้กับการออกกำลังกายค่ะ เพราะพื้นฐานชีวิตที่ดีเริ่มต้นจากการมีร่างกายที่แข็งแรง
3. ปรับเปลี่ยนการกิน
อย่าคิดว่าออกกำลังกายเยอะแล้วสามารถกินอะไรก็ได้ เสียไป 500 แคล กินอะไรกลับมาก็ได้ 500 แคล ถึงจะพอดี ขอบอกว่าคิดผิดค่ะ ตูนลองมาหมดละค่ะ สูตรลดน้ำหนักสามวัน เจ็ดวัน ลดแป้ง กินคลีน กินแต่ผลไม้ กินแต่เนื้อสัตว์ กินแต่ผัก เคี้ยวขนมแล้วคาย ซึ่งวิธีการต่างๆนานา มันไม่อยู่กับเรานานค่ะ เราต้องกินทุกอย่างให้พอดี พอประมาณกับที่ร่างกายเราต้องการ
จะรู้ได้ไงว่าเราต้องการเท่าไหร่ มันมีสูตรอยู่นะ คำนวนว่าร่างกายเราจะต้องกินโปรตีน เท่าไหร่ คาร์บเท่าไหร่ เช่น ผู้ใหญ่ จะต้องการโปรตีนอยู่ที่ 0.8 กรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือประมาณ 55 กรัมต่อวัน แต่ตูนว่ามันลำบากจะจำเมื่อต้องออกไปกินข้างนอกบ้าน จะไปสั่ง ป้าคะๆ เอากระเพราเนื้ออกไก่ล้วน 55 กรัมค่ะ ก็แปลกๆอยู่นะ ไม่ต้องถึงกับมานั่งนับแคล นั่งชั่งน้ำหนักว่ากี่กรัม คือถ้าเวลามีเหลือเฟือก็ทำได้นะ แต่ด้วยความที่ชีวิตตูนเกือบทุกวันจะค่อนข้างเร่งรีบ วิธีนี้อาจไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ 555 ไว้วันว่างๆ ค่อยชั่งตวงวัด
สลัดผัก + ไข่
สลัด + มัสตาด + ไข่ตุ๋น + น้ำมะเขือเทศ
แยกให้ออก อันไหนอยาก อันไหนหิว ความอร่อยมันอยู่กับเราแค่ชั่วครู่ค่ะ แต่ไขมันมันอยู่กับเรายาวนานนะ สะสมกันมาเท่าไหร่ ลองคิดดู ฉะนั้นมีสติด้วยค่ะ นิดๆหน่อยๆ คำสองคำอะพอได้ แต่ไม่ใช่กินแบบเอาตาย กินเหมือนจะไม่ได้กินอีกแล้ว
ให้รางวัลตัวเองบ้างก็ได้ค่ะ เดือนละครั้งไปกินขนมปังสังขยาฟินๆกัน หรือไปกินบุฟเฟ่ต์กันเหอะ คือถ้าเราจะกินอะไรเราต้องดูด้วยว่า เราเดินมาไกลยัง เดินมาถึงไหนละ วกกลับไปดูนิดนึงสิ โอเค ดูละรู้แล้วว่าเป็นไง กลับมาเดินต่อนะ เดินไปเรื่อยๆนะ อย่ากลับบ่อย ใจต้องนิ่ง
บราวนี่+มาชเมลโล่ว ร้าน dessert warehouse
หาตัวตายตัวแทน ข้าวขาวแทนข้าวกล้อง น้ำมันรำข้าว / น้ำมันมะกอก แทนน้ำมันพืช เครื่องปรุงลดโซเดียม ถ้าหาไม่ได้ก็ปรุงน้อยๆเข้าไว้ค่ะ ใครที่ติดทานอาหารรสจัดก็เพลาๆลงหน่อย เครื่องปรุงและอาหารสำเร็จรูปทำให้ตัวบวม
สมูทตี้ : นม+กล้ว+กรีกโยเกิต+มูสลี่
อยากขนมทำยังไง? กินได้ค่ะ กินนิดๆหน่อยๆ แต่ไม่ใช่กินวันเว้นวัน สามสี่วันกินที (อันนี้เรียกถี่) แล้วมานั่งบ่นว่าฉันอ้วน พุงมา นี่ก็ไม่รู้จะตอบว่ายังไงดีนะ ลองเปลี่ยนวิธีดู อยากกินไอติมใช่ป่ะ? ทำเองสิ กล้วยมาบดๆ เอาไปแช่ช่องฟรีซ หรือ เอาโยเกิตไปใส่ช่องฟรีซพอแข็งแล้วเอาออกมาราดด้วยน้ำผึ้ง ก็ฟินไปอีกแบบนะ หรือถ้าอยากเก๋ๆชิคๆ ดัดจริตกินสตาบัคทำไงดี ตูนก็จะเลือกเปลี่ยนนมที่ใส่เป็นนมถั่วเหลืองและไม่ใส่ไซรัปค่ะ เมนูที่ชอบสั่งจะเป็น ชาเขียวเย็ยเปลี่ยนเป็นนมถั่วเหลืองไม่ใส่ไซรัป ก็เก๋ๆชิคๆได้อยู่นะ
กราโนล่า + กล้วย + แอปเปิ้ล
Healthy Snack สมัยนี้หาซื้อง่ายมาก เนยถั่ว นม กราโนล่า บราวนี่ ขายกันเยอะแยะเลยค่ะ ราคาอาจจะสูงกว่าอาหารปกติ เพราะมันมีประโยชน์ เค้าคัดวัตถุดิบมาแล้ว
ขนมเฮลตี้ๆ จากร้านใบเมี่ยง
กราโนล่า + กีวี่ + กล้วย + แอปเปิ้ล
ชาเขียวเย็น เปลี่ยนเป็นน้ำเต้าหู้ ไม่ใส่ไซรัป
เรื่องอาหารการกินตูนหาอ่านจาก lovefitt , Shhhh it’s healthy
ตูนเคยบ้ากินคลีนมากๆ จนถึงเข้าขั้นโรคจิต เพราะตูนเป็นคนทำอะไรทำสุด ไม่ก็คือไม่ เวลาไปกินอาหารข้างนอก จะคิดนาน จะระแวงว่าเค้าใช้น้ำมันอะไร ใส่น้ำตาลเยอะเปล่า เครื่องปรุงใส่อะไรบ้างนะ? 5555 แนะนำว่าถ้ามีเวลาให้ทำกินเองค่ะ อันนี้จะตอบโจทย์ได้ดีสุด เราจะกะปริมาณได้พอดี ชอบอะไรไม่ชอบอะไร จัดการเองเลย ชั่งตวงวัดเอาละกันนะ จะทำ กระเพราเนื้ออกไก่ล้วน 55 กรัม เปลี่ยนเป็นน้ำมันมะกอก ใส่เครื่องปรุงลดโซเดียม ยังไงก็ได้ตามใจเราเลย สูตรอาหารมีอยู่เยอะแยะค่ะ ทำไม่ยาก ถ้าไม่อร่อยก็กินเข้าไปเถอะค่ะ เสียดายอ่ะ แล้วฝึกทำใหม่ เดี๋ยวจะชินรสชาติไปเอง 5555
อันนี้เป็นเมนูอาหารทั้งคาวหวานที่ทำเองค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะบ้านบ้านนะ ไม่ใส่น้ำมันบ้าง บางอย่างอร่อย บางอย่างก็ไม่อร่อย แต่ก็กินๆไป กินไปเพื่อให้อิ่ม เพื่อให้มีแรงออกกำลังกาย
ส่วนใหญ่จะไม่ใช้น้ำมันหรือจะใช้น้อยมากกกกกค่ะ เลี่ยงแป้งข้าว และเลือกไก่เป็นหลักค่ะ เพราะได้โปรตีนสูงในราคาพิเศษ 555
เมนูที่ทำซ้ำๆก็จะเป็นพวก ผัดกระเพรา ผัดผัก ไก่อบ ลาบ ค่ะ
โชคดีตรงที่อาจจะเพราะเคยบ้ากินคลีนมันเลยส่งผลให้ไม่ชอบอาหารรสจัดไปโดยปริยาย say goodbye ของทอดของมัน หนังไก่มันหมู ของหวานนี่ไม่ค่อยกินอยู่แล้ว น๊านนานจะกินทีค่ะ การกินนี่อาจจะทำได้ยากสุดนะ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าทำได้ เราอาจจะไม่ต้องออกกำลังอย่างหนักหน่วงเลยก็ได้
4. อย่าไปซีเรียสกับเลขบนตาชั่ง
บางคนรวมถึงตัวตูนเองซีเรียสมากกกกกกกกกับเลขบนตาชั่ง ทั้งๆที่คนอื่นบอก ผอมจะแย่อยู่แล้ว ตัวจะหักแล้ว แต่น้ำหนักฉันขึ้นอ่ะ ทำไมๆๆๆ เปลี่ยนความคิดใหม่ค่ะ เพราะเป้าหมายของการหุ่นดีแบบมีสุขภาพ คือ
การลดไขมัน > เพิ่มกล้ามเนื้อ > กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน > ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นแต่รูปร่างดีกว่าเดิม
แค่นี้เองง่ายๆ หลายครั้งตูนมักจะบ่นและเครียดว่าน้ำหนักขึ้นๆ แต่เสื้อผ้าหลวม อีนี่ก็ไม่พอใจนะ มานั่งนอยนั่งเครียด อดข้าว งดแป้ง สุดท้ายคือ พังกว่าเดิมค่ะ เพราะพอเราอดแป้งมากๆ สมองจะเบลอ หงุดหงิดง่าย แล้วพอเรากลับมากิน เราจะโหยหาแป้ง จะกินมากกว่าเดิมเท่าตัว ส่งผลให้น้ำหนักขึ้น เท่านั้นยังไม่พอยังทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายพังไม่เป็นท่าอีกด้วย
อันนี้เป็นตัวอย่างของตูนนะคะ จะเห็นได้ว่าช่วงที่ตูนหนัก 52 ไขมันตูนจะน้อย แต่กล้ามเนื้อจะเยอะ ในขณะที่ตูนหนัก 51 กล้ามเนื้อลดลง แต่ไขมันเพิ่มขึ้น
5. อยู่ที่ใจ
ใจต้องสู้ค่ะ ถ้าไม่สู้ถึงที่สุดจะรู้ได้ไงว่าเราทำได้ไหม ที่สู้แล้วก็สู้อีก สู้ต่อไปค่ะ ใจแข็งเข้าไว้ สำหรับตูน ตูนจะคอยนึกคิดก่อนคิดเสมอว่า กินไปแล้วได้อะไร? นอกจากความอร่อย มีประโยชน์ป่าว? กินแล้วส่งผลยังไง? ถ้ากินแล้วมันไม่ให้อะไรเลยนอกจากความอร่อย ก็จะไม่กิน หรือพยายามไม่กิน หลายคนที่รู้จักตูนชอบถามว่า ไม่เครียดหรอที่ต้องคอยระวังเรื่องกิน? ตูนจะตอบกลับสวยๆว่า ไม่เครียดนะ เพราะถ้ากินไปแล้วทำให้หุ่นพัง ตูนเครียดกว่าอีก 555 ถามว่าทำได้ไง ไม่กินขนม ตอบคือ ทำใจค่ะ 5555 ทำใจจริงๆค่ะ ขนมอ่ะ นอกจากอร่อยแล้ว ส่งผลอะไรอีกบ้างไหมละ? คิดสิคิด ทั้งน้ำตาล ทั้งเนย บลาบลาบลา แค่คิดก็ไม่กล้ากินแล้วง่าาา >< มีหลายคนที่ชอบเข้าข้างตัวเองว่า ฉันออกกำลังกายไปเยอะแล้ว ฉันจะให้รางวัลตัวเอง ไม่อ้วนหรอกๆ เข้าข้างตัวเองกันทั้งนั้นนนน 555 ต้องสู้น้า เพื่อวันที่ดีกว่าที่รออยู่ข้างหน้า
6. ทุกอย่างต้องใช้เวลาและความต่อเนื่อง
สิ่งสำคัญที่สุดนอกจากใช้ใจแล้ว ต้องใช้เวลาด้วยค่ะ ไม่ใช่ทำแป๊ปๆ ลดสองโลแล้วเลิกออกกำลังกาย ของแบบนี้มันต้องทำตลอดค่ะ ไม่มีกำหนดเวลาว่าทำถึงไหน ต้องทำตลอดไปค่ะ มันเหมือนกับเราทาครีมนั่นแหล่ะ พอหยุดทามันคงไม่เห็นผลอะไร แต่พอระยะเวลาผ่านไป ผิวมันจะไม่เด้งเหมือนเดิม เหมือนตอนที่ทา ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆนะคะ อะไรที่มาง่ายๆมักอยู่กับเราไม่นาน มันจะดีกว่าไหม ที่เราลุกมาออกกำลังกายและดูแลตัวเอง ทำเพื่อตัวเอง ทำไปเรื่อยๆจนกว่าเราจะไม่ไหว ทำจนให้มันเป็นส่วนนึงของชีวิต แล้วเราจะไม่รู้สึกเหนื่อยและท้อ เชื่อเหอะว่าสิ่งที่ได้มามันคุ้มค่ากับที่เหนื่อยแน่ๆ ทั้งหุ่นที่น่าพอใจ สุขภาพแข็งแรง แถมสุขภาพจิตดีอีกด้วย วินวินวิน สวยไปอีกค่ะ
รูปนี้ตอนประมาณ กุมภาพันธ์ 2015
รูปนี้คือปลายเดือนพฤศจิกายน 2015
7. ใช้ตัวช่วย
เข้าใจนะว่ารอเวลาบางทีอาจทำห้เราท้อ อาจจะหาตัวช่วยได้ค่ะ ตัวช่วยสมัยนี้มีให้เลือกเป็นร้อยๆให้เลือก มีหลายวิธีนะ แต่ที่สำคัญคือ เลือกอย่างมีสติ อย่าไปเชื่อไอที สามวันลดสองโล มันเว่อร์ไป มันเร็วเกิ๊น ตัวช่วยที่ตูนเคยลองแล้วเห็นผลก็จะมีดังนี้ค่ะ
Detox ด้วยน้ำผลไม้สกัดเย็น อันนี้อาจจะทรมานใจหน่อย แต่ตูนว่าได้ผลดีที่สุดเลย เพราะการดีท็อกซ์ด้วยวิธีการนี้ นอกจากจะช่วยให้น้ำหนักลดลงเร็วแล้ว ยังสามารถช่วยให้ลดขนาดการกินหลังจากจบการดีท็อกซ์ได้อีกด้วย ที่ตูนเคยองสองครั้งคือน้ำหนักลงทั้งสองครั้งเลยนะ ลงแบบไม่เวอร์ ลงแบบค่อยๆลง แถมกินน้อยกว่าเดิมอีกด้วย เคยทำรีวิวบอกเล่าประสบการณ์ไว้นะ ลองเสิชได้จากกูเกิ้ลว่า cartoonkantika ดื่มน้ำผลไม้สกัดเย็น
อาหารเสริมเพื่อลดน้ำหนัก จะแตกต่างกับยาลดความอ้วนนะคะ สมัยนี้มีหลายยี่ห้อออกมามากมายเลย สกัดจากธรรมชาติ ช่วยในเรื่องของรูปร่างและการลดน้ำหนัก เช่น ถั่วขาว สารสกัดจากกระบองเพชร อะไรแบบนี้ มันไม่มีฤทธิ์กดประสาทซึ่งต่างจากยาลดความอ้วนค่ะ วิธีนี้เป็นวิธีช่วยแบบเร่งรัด แบบไม่โยโย่หรืออาจจะโย่ อันนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลค่ะ ตูนไม่ได้สนับสนุนให้ซื้ออาหารเสริมกินนะ แต่เข้าใจสาวๆบางทีอยากรีบอ่ะเนอะ 555
การกินอาหารเสริมพวกนี้ เลิกทานแล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม? เอาตรงๆเลยนะคะ การทานอาหารเสริม มันก็คือการทานสารอาหารเสริมเข้าไปเพื่อช่วยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าหากหยุดทานแล้วถ้าไม่ออกกำลังกายต่อ มีสิทธิ์จะกลับมาเหมือนเดิมได้ หรืออาจจะอ้วนกว่าเดิม เพราะคนเรายิ่งอายุมากขึ้น การเผาผลาญจะน้อยลง (ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนเราไม่สบาย พอเราทานยาไปก็หาย พอเราหายไม่สบายแล้วไม่ใช่ว่าเราจะไม่เป็นอีก) การกินอาหารเสริมที่ถูกต้องควรทำควบคู่กับการออกกำลั
การออกกำลังกายมีอะไรมากกว่าการยกเวทแบบบ้าคลั่ง ซิทอัพวันละหลายร้อยครั้ง หรือ คาร์ดิโอติดกันเป็นชั่วโมง พอเหงื่อออกแล้วก็จบ หากอยากออกกำลังกายให้ได้ผลดีที่สุด ควรจะเริ่มจากเวทเทรนนิ่ง แล้วตามด้วย คาร์ดิโอ จำไว้ว่าเหงื่อที่ออกมาคือน้ำ ไม่ใช่ไขมันค่ะ ปรับพฤติกรรมการกิน นอนให้เพียงพอ ทำทุกอย่างให้พอดีกับร่างกายเรา ไม่เบาเกิน ไม่หนักเกินค่ะ และอดทนนะ ทุกอย่างต้องใช้เวลา
หวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจของใครหลายๆคนนะคะ หากผิดพลาดประการใดตูนขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยค่ะ ยินดีตอบและแก้ไขในทุกอย่างที่แชร์ไปค่ะ สำหรับใครที่ยังไม่เริ่มก็เริ่มกันตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคะ อย่าผลัดว่า ค่อยเริ่มวันจันทร์ ค่อยเริ่มเดือนหน้า ค่อยเริ่มปีใหม่ ของแบบนี้ผลัดไม่ได้ค่ะ อยากเริ่มก็ต้องเริ่มเล้ยยย สู้ๆค่ะ คุณทำได้แน่นอน!!